เรียนต่อต่างประเทศกับ GoUni

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ไปอังกฤษซื้ออะไรดี ?!?












สำหรับคนที่มีโอกาสได้ไปเรียนต่อประเทศอังกฤษ แต่นึกไม่ออกว่าจะซื้อของยี่ห้อไหนดี ของแบรนด์เนมที่อังกฤษราคาถูกกว่าไทยมั้ย หรือกำลังจะกลับไทยควรจะซื้อของฝากอะไรดี วันนี้ผมได้รวบรวมแบรนด์เด็ดแบรนด์ดังที่ทุกคนที่มาเยือนอังกฤษต้องซื้อ มาฝากกันครับ (นี่เป็นแบรนด์เพียงบางส่วนเท่าที่ทางทีมงาน My Plaพอจะนึกออกนะครับ หากใครมีแบรนด์แนะนำสามารถเพิ่มเติมได้ครับ)


เครื่องสำอาง น้ำหอม โลชั่น ต้องยกให้แบรนด์ดังเหล่านี้ บอกได้เลยว่าราคาไม่แพงนักเมื่อเทียบกับราคาบ้านเรา




ใครอยากได้กระเป๋าแบรนด์เนมสักใบ แต่คิดแล้วคิดอีกว่าจะซื้อดีมั้ย ลองดูแบรนด์เหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วถูกกว่าซื้อที่เมืองไทยครับ



สำหรับเสื้อผ้า เสื้อหนาว ต่างๆ ลองดูแบรนด์เหล่านี้ดูครับ เชื่อว่าทุกคนต้องมีแบรนด์เหล่านี้ติดตู้อย่างน้อย 1 ตัว เพราะอดใจไม่ได้กับราคาที่แสนคุ้มค่า

หากน้องๆกำลังมองหารองเท้าคู่ใจเพื่อใส่ไปเรียนอยู่หล่ะก็ ลองเลือกแบรนด์เหล่านี้ดูนะครับ มีทั้งรองเท้าลำลอง รองเท้าบูธ และรองเท้าแตะให้เลือกครับ

ถ้าอยากหาของฝากสไตล์ผู้ดีอังกฤษ น้ำหนักเบา ราคาสบายกระเป๋า ต้องนี่เลย ชา Twinings หรือไม่ก็จำพวกขนมอย่าง Krispy Kreme, คุ้กกี้แสนอร่อย Ben’s Cookies หรือ ช๊อคโกแลตหวานๆอย่าง Thorntons รับรองถูกใจผู้รับเป็นแน่แท้

หากใครไม่ได้สนใจสินค้าแบรนด์เนมเท่าไหร่ ลองหันมาดูสินค้าได้ที่ Primark ที่นี่มีสินค้าเกือบทุกอย่างที่น้องๆมองหาในราคาที่ไม่แพงเลยละครับ (ยิ่งช่วงลดราคายิ่งถูกเลยละครับ)







ส่วนแบรนด์ Harrods นี้ไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอนครับ ทุกคนที่รู้จักน้องๆเมื่อรู้ว่าน้องกำลังจะกลับบ้านจะต้องฝากซื้อถุงหิ้วหน้าตาน่ารักแน่นอนครับ



เคล็ดลับในการซื้อของให้ได้ราคาถูกที่ประเทศอังกฤษ
  1. ถ้าคุณมีเวลาเพียงพอ ควรเดินดูหลายๆห้างเพื่อสำรวจราคาดูนะครับ เพราะแต่ละห้างราคาไม่เท่ากัน
  2. ซื้อของช่วงเวลา SALE เช่น Mid-Year Sale, Summer Sale, End of Season Sale, Boxing Day (ตั้งแต่วันที่ 26 December เป็นต้นไป), เป็นต้น
  3. บัตรนักเรียน นักศึกษา ช่วยท่านได้ เพียงถามพนักงานว่ามีส่วนลดสำหรับนักเรียน Full time หรือไม่ เค้าก็จะให้เราโชว์บัตรนักศึกษา จากนั้นก็รับส่วนลดไปเลย 5-10% แล้วแต่ร้านค้า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วร้านค้าจะให้สิทธิพิเศษนี้สำหรับนักเรียนที่มีบัตรนักศึกษา
  4. อย่าลืม ทำ Tax Refund สำหรับน้องๆที่จะซื้อของกลับบ้าน (แต่การทำ tax refund นั้น น้องๆจะต้องไม่มีแพลนที่จะกลับมาประเทศอังกฤษภายใน 6 เดือนหลังจากที่ออกนอกประเทศแล้วนะครับ)

เมื่อรู้แบรนด์เด็ดแบรนด์ดังกันไปแล้ว ทีนี้ก็ออกเดินทางพร้อมบัตรเครดิต/เดบิตไปช้อปกันได้ละครับ แต่อย่าช้อปกันเพลินจนลืมเรื่องเรียนและเรื่องน้ำหนักกระเป๋าที่จะต้องขนของกลับนะครับ




------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-967-7003 หรือ info@myplan-edu.com

วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557

งบประมาณ เงินทุน ทุนการศึกษา (3)

ทุนการศึกษา

เรียนต่อต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเรามีการเตรียมพร้อมที่ดี วันนี้ผมจะพูดถึงเรื่องทุนการศึกษาครับ


นักเรียนหลายๆ คน ย่อมอยากได้ ทุนการศึกษา แต่การที่มหาวิทยาลัย หน่วยงาน องค์กร หรือ บริษัท ต่างๆ จะให้ทุนกับเด็กนักเรียนซักคนหนึ่ง เขาย่อมพิจารณาถึงความสามารถของนักเรียนก่อน สิ่งที่จะวัดได้ดีที่สุดก็คือ ผลการเรียน ครับ

แต่นั่นเป็นแค่เบื้องต้นครับ เพราะหลายๆทุน ก็จะมีการสอบคัดเลือก ทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์ จากนั้นจึงประกาศผล ว่าใครที่ได้รับทุนการศึกษาบ้าง

สำหรับหน่วยงานที่บุคคลทั่วไป หรือข้าราชการสามารถขอข้อมูลเกี่ยวกับทุนการศึกษาของเมืองไทยนั้นคือ สำนักงาน ก.พ. ครับ เราเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ รวมแหล่งทุน และอีกหน่วยงานนึงของประเทศอังกฤษที่เราสามารถสมัครขอทุนได้เช่นกันคือ British Chevening 

นอกจากนี้ตัวมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษเองก็มีแจกทุนการศึกษาให้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นทุนเต็มจำนวน Full Scholarship หรือทุนบางส่วน Partial Scholarship และยังมีเงินทุนหรือเงินอุดหนุน Bursary รวมทั้ง ส่วนลด Discount ให้แก่นักเรียนอีกด้วย

ซึ่งแต่ละทุนก็จะมีการกำหนดเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงต้องศึกษาว่ามหาวิทยาลัยที่เราสมัครนั้นต้องการนักเรียนที่มีคุณสมบัติด้านใดบ้างในการสมัครขอทุนการศึกษา

แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ทุน เพราะว่าทุนการศึกษามักจะมีจำนวนจำกัด เราจึงต้องวางแผนการเรียนให้ดี ทำเกรดเฉลี่ยให้สูงเท่าที่ทำได้ ก่อนที่จะจบการศึกษาในเมืองไทย เพื่อที่จะได้เพิ่มโอกาสในการขอทุนในอนาคตครับ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-967-7003 หรือ info@myplan-edu.com

วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

งบประมาณ เงินทุน ทุนการศึกษา (2)

งบน้อยทำไงดี?

แน่นอนการไปเรียนต่างประเทศเราควรจะต้องเตรียมเงินไว้จำนวนหนึ่งซึ่งเป็นหลักแสนครับ เพราะแค่ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับก็ปาเข้าไปเกือบครึ่งแสนแล้ว

British Study Centres

วันนี้เราจะมาพูดถึงเทคนิคในการประหยัดงบประมาณในการไปเรียนภาษากัน ซึ่งมีดังนี้ครับ

1. กำหนดระยะเวลาในการไปเรียน ตัวอย่างเช่น 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือนหรือ 1 ปี

ลงเรียนช่วงบ่ายถูกกว่าช่วงเช้า ยิ่งลงเรียนเยอะ ค่าเรียนต่อสัปดาห์จะยิ่งถูกลง

2. เลือก โรงเรียน ว่าจะเป็นในเมืองใหญ่ หรือเป็นเมืองเล็ก

ค่าครองชีพในเมืองใหญ่ย่อมสูงกว่าที่อื่น โดยมากสังเกตจากค่าที่พักได้

3. ค้นหา โปรโมชั่น ว่าที่ไหนมีส่วนลดให้บ้าง

โปรโมชั่นจะมีตลอดปี (แต่ไม่ใช่ทุกโรงเรียน) บางที่ให้ส่วนลด บางที่แถมจำนวนสัปดาห์ให้

4. เลือกที่พัก

เลือกพักกับ host จะประหยัดกว่า เพราะสามารถเลือกแบบมีอาหารเช้าได้ แต่ที่พักช่วงซัมเมอร์จะแพงกว่าฤดูกาลอื่นๆ

นอกจากนี้หากเราเลือกไปเรียนช่วงกลางปี ตั๋วเครื่องบินจะมีราคาถูกกว่าช่วงอื่นๆ

ส่วนบัญชีสำหรับเตรียมไปขอวีซ่า ถ้าเป็น student visitor จะต้องเตรียมในระยะยาวอย่างน้อย 6 เดือน ยอดเงินคงเหลือในบัญชีให้เตรียมไว้ 820 - 1020 ปอนด์ต่อเดือน รวมด้วยค่าเรียนที่จะต้องจ่าย แต่ถ้าใครชำระค่าเรียนเต็มจำนวนไปแล้ว ก็หักออกไปได้ครับ

ในที่นี้เราจะใช้บัญชีของพ่อแม่ หรือแสดงหลักทรัพย์อย่างอื่นเช่นใบหุ้น ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ

บทความหน้า ผมจะพูดถึงเรื่องทุนการศึกษา ว่าจะหาได้จากไหนอย่างไร...

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-967-7003 หรือ info@myplan-edu.com

วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557

งบประมาณ เงินทุน ทุนการศึกษา (1)

อยากเรียนต่อต่างประเทศ ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่?

ถ้างบน้อยจะมีโอกาสได้ไปไหม?

มีทุนการศึกษาให้ไหม?

สามคำถามที่พบเจอบ่อยที่สุดสำหรับคนที่ต้องการไปเรียนต่อครับ บทความนี้มีคำตอบ
(ผมจะยกตัวอย่างการคำนวณเงินไปเรียนที่ประเทศอังกฤษนะครับ)

ค่าเรียน...

มาเริ่มที่ค่าเรียนก่อนเลย สถาบันการศึกษาที่เมืองนอก ส่วนมากแล้วค่าเทอมที่เขาคิดนักเรียนต่างชาติจะอยู่อีกเรทนึงโดยจะมากกว่านักเรียนในประเทศเขาอยู่ 2 เท่าครับ และมหาวิทยาลัยที่ยิ่งดัง ค่าเทอมก็จะยิ่งแพงตามไปด้วย แต่ก็ไม่เสมอไปนะครับ

ถ้าเป็นระดับปริญญาโดยทั่วไป ค่าเรียนจะอยู่ที่ระดับตั้งแต่ 8,000 - 10,000 ปอนด์ ไปจนถึง 40,000 - 50,000 ปอนด์ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสาขาวิชาที่จะไปเรียนครับ จำไว้ว่าค่าเรียน MBA แพงเสมอ แต่โดยเฉลี่ยค่าเรียนของมหาวิทยาลัยที่ติดลำดับต้นๆ จะอยู่ที่ 15,000 - 25,000 ปอนด์ครับ นั่นคือ 750,000 - 1,250,000 บาทนั่นเอง (แพงใช่ไหมครับ)

ในส่วนของคอร์สเรียนภาษาอังกฤษจะคิดเป็นรายสัปดาห์ครับ ยิ่งลงเรียนเยอะเท่าไหร่ค่าเรียนยิ่งถูกลง โดยราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 80 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ไปจนถึงระดับ 400-500 ปอนด์ต่อสัปดาห์!! พอเห็นราคาอย่างนี้แล้วก็แล้วแต่การกำหนดงบประมาณของแต่ละคนเลยครับ

ค่าครองชีพล่ะ...

เมืองใหญ่ย่อมแพงกว่าเมืองเล็ก นึกถึงลอนดอนที่เป็นเมืองหลวงก็ไม่ต่างจากกรุงเทพครับ ออกจากบ้านก็เสียเงินแล้ว แต่ถ้าเราไปอยู่สกลนครล่ะ ค่าที่พักย่อมถูกลง ค่าอาหารก็ถูกลง แต่เมืองเล็กบางแห่งอาจจะแพงเท่าเมืองใหญ่เช่น เราอยากไปอยู่พัทยา เมืองเล็กกว่ากรุงเทพถูกไหมครับ แต่ค่าครองชีพไม่ได้ด้อยไปกว่ากรุงเทพเลย เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว ดังนั้นเวลาเราจะไปเรียนเมืองไหนก็ควรศึกษาก่อนว่าเมืองนั้นเป็นเมืองอะไรเช่น เมืองท่องเที่ยว เมืองอุตสาหกรรม เป็นต้น

มาดูที่กฏของ UKVI (UK Visas and Immigration) กันบ้างดีกว่า ทางอังกฤษได้บอกไว้ว่า นักเรียนที่เรียนภายในลอนดอนจะต้องแสดงหลักฐานว่ามีเงินไม่ต่ำกว่า 1,020 ปอนด์ต่อเดือน ในขณะเดียวกันใครก็ตามที่เรียนอยู่รอบนอกของลอนดอนหรือเมือง อื่นๆ ต้องมีเงินไม่ต่ำกว่า 820 ปอนด์ต่อเดือนสำหรับเป็นค่าครองชีพขั้นต่ำที่จะสามารถอยู่ได้ในอังกฤษครับ

แต่ในความเป็นจริงแล้วหลายๆคนอาจจะใช้เงินเยอะกว่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบการดำเนินชีวิต จากประสบการณ์แล้วผมแนะนำว่าควรเตรียมเงินไป 800-1,000 ปอนด์สำหรับนอกลอนดอนและ 1,000 - 1,500 ปอนด์สำหรับในลอนดอน ดังนั้นในหนึ่งปีเราจะมีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ 400,000 บาท ไปจนถึง 1,000,000 บาทเลยทีเดียว ดูแล้วอาจจะสูงแต่ขอย้ำอีกทีว่าขึ้นอยู่กับรูปแบบในการดำเนินชีวิตครับ เช่น เราสามารถทำอาหารทานเองได้โดยไม่จำเป็นต้องออกไปทานนอกบ้านทุกวัน หรือการช้อปปิ้งอาจจะรอตอนของลดราคา เป็นต้น

สรุป ใน 1 ปี เราต้องเตรียมเงินอย่างต่ำ 1 ล้านบาท สำหรับการไปเรียนปริญญาที่เมืองนอก แต่ต่ำกว่า 1 ล้านหากเราไปเรียนภาษาอังกฤษอย่างเดียว

แล้วถ้างบน้อยล่ะจะทำอย่างไร???

credit to expedia


------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-967-7003 หรือ info@myplan-edu.com


วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เรียนต่อเมืองนอก เริ่มยังไงดี?

อยากไปเมืองนอก อยากไปเรียนต่อจะได้เพิ่มโอกาสให้กับตัวเอง อยากมีประสบการณ์ อยากท่องเที่ยว แต่จะเริ่มต้นยังไง บทความนี้มีคำตอบครับ

หลายๆคนใฝ่ฝันว่าอยากไปเรียนต่อเมืองนอกกันอยู่แล้ว เพราะจะทำให้มีโอกาสในเรื่องของการงานมากขึ้น มีอิสระในการเลือกหรือตัดสินใจเรื่องต่างๆในชีวิตด้วยตัวเอง แต่ทุกอย่างจำเป็นต้องวางแผนก่อน ไม่ใช่ว่าจู่ๆ อยากไปเรียนก็ไปได้เลย และปัจจัยสำคัญก็คือ เงินทุนครับ

สำหรับบางคนประเด็นเรื่องเงินอาจจะไม่ใช่ปัญหาหลัก ถ้าครอบครัวเราสามารถสนับสนุนได้ แต่ก็มีปัจจัยอื่นๆให้ต้องคำนึงถึงเช่นกันว่า อยากจะไปเรียนอะไร สถาบันไหนดีหรือไม่ดี เมืองไหนเหมาะกับเรา เป็นต้น

ขอบคุณรูปภาพจาก www.alto.org.uk
เราจะพูดถึงสิ่งสำคัญอันดับแรกก่อนครับ เราต้องรู้ตัวเองก่อนว่าอยากไปเรียนเมืองนอกเพื่อวัตถุประสงค์อะไร จากประสบการณ์ ผมขอสรุปดังนี้ครับ

1. เรียนภาษาเพื่อให้สื่อสารได้ดีขึ้น หรือเพื่อเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น
2. เรียนต่อในระดับปริญญา เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงานในอนาคต
3. เรียนเพราะว่าอยากเรียนรู้ อยากมีความรู้เฉพาะด้านมากขึ้น

สถาบันไหนดี?

Royal Holloway, University of London
ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.uq.edu.au/
โดยมากแล้วเราจะได้รับการแนะนำต่อๆกันมาจากคนที่เคยไปแล้วว่า สถาบันไหนมีการเรียนการสอนที่ดีมีคุณภาพ ซึ่งตรงนี้จะมีส่วนช่วยอย่างมากในการตัดสินใจเลือกที่จะสมัครเข้าเรียน แต่เรื่องนึงที่ควรจะพิจารณาเพิ่มเติมก็คือ เราต้องดูหลักสูตรว่าตรงกับความต้องการของเรามากน้อยแค่ไหน เพราะสิ่งที่เราต้องการกับสิ่งที่คนอื่นต้องการนั้นอาจจะไม่เหมือนกัน 

การจัดอันดับของมหาวิทยาลัยก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม อย่างน้อยก็ช่วยการันตีในระดับนึงว่ามหาวิทยาลัยนั้นมีชื่อเสียงในระดับที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยุ่กับคุณสมบัติของเราด้วยว่าเราได้เกรดเฉลี่ยสูงพอที่จะได้รับคัดเลือกเข้าเรียน

สำหรับคนที่สนใจเรียนภาษา โรงเรียนภาษาในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย ในช่วงราคาที่หลากหลาย ดังนั้นเราต้องคำนวณงบประมาณของตนเองก่อน แล้วค่อยตัดตัวเลือกออก จำไว้อย่างนึงว่า ค่าเรียนยิ่งแพง จำนวนนักเรียนต่อห้องยิ่งน้อยลง ดังนั้นประโยชน์ก็จะตกกับตัวผู้เรียน ครูผู้สอนมีเวลาดูแลนักเรียนในห้องได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น


เคล็ดลับ หาคอร์สเรียนได้ที่ไหนบ้าง?

http://www.findamasters.com/
http://www.hotcourses.com/
http://www.masterstudies.com/
http://www.mastersportal.eu/


บทความต่อไปเราจะมาวางแผนด้านการเงินกันครับ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-967-7003, 098-825-9840 หรือ info@myplan-edu.com
ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ My Plan Education Advisory (ปรึกษาฟรี)