Student Residence หรือ หอพักนักศึกษา
มีลักษณะคล้ายกับอพาร์ทเมนต์หรือคอนโดมิเนียมบ้านเรา โดยจะมีมาตรฐานคร่าวๆดังนี้
ชั้น 1 หรือ ชั้น G จะมี reception ไว้สำหรับนักศึกษาเพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่เรื่องต่างๆ, มีห้องซักผ้าและอบผ้า แบบหยอดเหรียญ ไว้บริการ, ห้องสันทนาการ ประกอบไปด้วย โทรทัศน์ โซฟาสำหรับนั่งเล่น พร้อมอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ เช่น โต๊ะฟุตบอลมือหมุน, โต๊ะพูล, บางหอพักอาจมี ยิม หรือฟิตเนส สำหรับออกกำลังกาย รวมถึงสระว่ายน้ำด้วย
ส่วนชั้นบนจะเป็นที่พักสำหรับนักศึกษา โดยใน 1 ชั้น จะประกอบไป ด้วยห้องนอนหลายๆห้อง แล้วแต่ขนาดของตึกนั้นๆ (ขั้นต่ำ 5 ห้องนอน), ห้องน้ำ, และห้องครัว
โดยทั่วไปแล้ว Student Residence หรือ หอพักนักศึกษา จะมีทั้งแบบหอพักมหาลัย และหอพักเอกชน แล้วหอพักทั้ง2แบบนี้ มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง??
ลักษณะของหอพักมหาลัย
- อยู่ในบริเวณหรือบริเวณรอบๆ มหาลัย เดินทางสะดวกสบาย
- ดูแลโดยเจ้าหน้าที่ของมหาลัย หรือ เจ้าหน้าที่ที่ทางมหาลัยเป็นคนจัดหามาเพื่อทำการดูแลหอพักของนักศึกษา
- ส่วนมากราคาจะถูกกว่าหอพักเอกชน
- เพื่อนทั้งหมดในหอจะเป็นนักศึกษาของมหาลัยนั้นๆ
ลักษณะของหอพักเอกชน
- อยู่บริเวณรอบนอกของมหาลัย เดินทางสะดวกสบายเช่นกัน
- ดูแลโดยบริษัทเอกชนนั้นๆ มีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ราคาแพงกว่า แต่ห้องดูใหม่และสะอาดกว่า เนื่องจากมีการบำรุงรักษาตลอดเวลา
- เพื่อนในหอพัก มีจากหลากหลายสถาบัน
ประเภทของห้องนอน หอพักนักศึกษา
1. Single Bedroom Shared Bathroom: ห้องนอนเดี่ยว แบบแชร์ห้องน้ำ ภายในห้องจะประกอบไปด้วย เตียงนอนเดี่ยว, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะอ่านหนังสือ, ชั้นวางหนังสือ, โคมไฟ เป็นต้น
ข้อดี: ประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากราคาถูกกว่าประเภทอื่นๆ เหมาะสำหรับคนงบจำกัด
ข้อเสีย: ห้องนอนและเตียงนอนมีขนาดเล็ก, ต้องแชร์ห้องน้ำและห้องครัวกับเพื่อนร่วมหอ
2. Twin Bedroom Shared Bathroom: ห้องนอนคู่สำหรับ 2 คน แบบแชร์ห้องน้ำ ภายในห้องมีทุกอย่างเหมือนกับ Single Bedroom แต่ของทุกอย่างจะมี 2 ชิ้น
ข้อดี: ประหยัดค่าใช้จ่าย เหมาะสำหรับน้องๆที่ไปเป็นคู่ที่มีงบประมาณจำกัด
ข้อเสีย: ขาดความเป็นส่วนตัว
Remark: การแชร์ห้องน้ำและห้องครัว จะเป็นการแชร์กันสำหรับนักศึกษาในชั้นนั้นๆเพียงชั้นเดียว (ประมาณ 5-10 คน)
3. En-suite Room: ห้องนอนขนาดมาตรฐาน ภายในห้องประกอบไปด้วย เตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะอ่านหนังสือ, ชั้นวางหนังสือ, โคมไฟ, ห้องน้ำในตัว (ฝักบัวอาบน้ำ, อ่างล้างหน้า, ชักโครก)
ข้อดี: ขนาดห้องนอนและเตียงนอน จะใหญ่กว่าห้องประเภท Single Bedroom
ข้อเสีย: ต้องแชร์ห้องครัวกับเพื่อนร่วมหอในชั้นที่เราอยู่
4. Studio Room: ลักษณะโดยรวมจะคล้ายกับ En-Suite Room แต่ห้องประเภท Studio Room จะพิเศษกว่าตรงที่มีห้องครัวในตัว, ตู้เย็น, เตาอบ, เตาแก๊ส, อ่างล้างจาน เป็นต้น จึงทำให้ห้อง Studio Room นี้มีขนาดใหญกว่าห้องประเภทอื่นๆ
ข้อดี: สามารถทำกิจวัตรส่วนตัวทุกอย่างได้ภายในห้องนอน
ข้อเสีย: ห้องประเภทนี้ไม่เหมาะกับการทำอาหารที่มีกลิ่นฉุน เพราะจะทำให้กลิ่นฟุ้งอยู่ในห้องนอน
1. มีความเป็นส่วนตัวสูงกว่าการพักอยู่กับ Host Family
2. ทำให้มีความรับผิดชอบในตัวเองมากขึ้น
3. มีเพื่อนมากกว่าการอยู่กับ Host Family
4. เข้า-ออก เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องแจ้งให้ใครทราบ
การพักหอพักนักศึกษา เราจะต้องเคารพสิทธิส่วนบุคคลของเพื่อนนักศึกษาคนอื่นๆด้วยโดย
- ไม่ส่งเสียงดังจนเกินไปที่จะก่อให้เกิดการรบกวนเพื่อนข้างห้องได้
- ไม่สูบบุหรี่ภายในตึก
- เมื่อมีการเข้า-ออกหอ ควรปิดให้สนิทเพื่อความปลอดภัยไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาขโมยทรัพย์สินทั้งของเราเองและของเพื่อนร่วมหอ เป็นต้น
ครั้งหน้าเราจะมาพูดถึงการเช่าบ้านกันนะครับ แล้วน้องๆจะได้ตัดสินใจได้ว่าไปเรียนต่างประเทศครั้งนี้จะเลือกที่พักแบบใด
สนใจเรียนต่อต่างประเทศ ปรึกษาฟรีกับ GoÜni (ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศครบวงจร: คอร์สเรียน, ที่พัก, วีซ่า, ตั๋วเครื่องบิน) โทร 02-967-7003, 098-825-9840
ติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ www.facebook.com/gouni.th
สามารถอ่านข้อมูลการศึกษาอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ www.gouni.co.th